ลองนึกย้อนไปตอนเด็กๆ
เพื่อนแต่ละคนจะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน เช่น คนที่เป็นลูกทหารจะเป็นคนมีระเบียบ
ลูกแม่ค้าจะเก่งคำนวณ ลูกนักกีฬาจะเก่งพละเป็นต้น
สิ่งนี้เป็นการเรียนรู้โดยอัตโนมัติ คือการเห็นทุกวันทำทุกวัน ในด้านภาษา
เคยสังเกตไหมคะว่า ครอบครัวนักดนตรีลูกหลานโตขึ้นมาก็เป็นนักดนตรี
เพราะดนตรีก็เป็นภาษาหนึ่งเช่นกัน มี 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด
อ่าน เขียน เหมือนเราเรียนภาษาอังกฤษนี่แหละค่ะ เมื่อเด็กๆได้
เห็น ฟัง
และปฏิบัติทุกๆวัน ก็จะเกิดทักษะไปเองโดยธรรมชาติ ไม่ต้องอารัมภบท เริ่มเลยดีกว่า
ทุกคนรู้ถึงความได้เปรียบของการที่เด็กมีความสามารถทางภาษา
มากกว่า1 ภาษา ดังนั้นไม่ต้องคิดมากเริ่มเลย ไม่ว่าลูกคุณจะยังอยู่ในท้อง,คลอดออกมาแล้ว,5 ชวบ,10ขวบ
หรือแม้แต่คุณยังไม่มีแฟนด้วยซ้ำก็เริ่มได้เลยค่ะ
1 เริ่มที่ตัวคุณ
เมื่อตัดสินใจว่าจะเริ่มก็ควรรู้ว่าจะเริ่มที่ไหนก่อนนะคะ
เคยสังเกตไหมคะว่าทำไมเด็กบางคนพูดชัด บางคนพูดห้วน บางคนพูดคำควบกล้ำไม่ได้
หรือบางคนพูดจาหยาบคายจนเป็นนิสัย อันนี้ก็มาจากพ่อแม่ และคนเลี้ยงใกล้ชิดของเด็ก
ถ้าพ่อแม่พูดอย่างไรลูกๆก็จะชินอย่างนั้น จึงควรเริ่มสำรวจตัวเองก่อน
ทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษ
2 ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
เพราะต่อไปนี้เราจะเป็นครู ครูต้องมีความรู้ และ ทัศนะคติที่ดีและถูกต้อง ไม่ต้องคอยให้เก่งก่อนจึงจะสอนลูกได้นะ คะ เรียนไปพร้อมกันกับลูกเลยก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เริ่มพร้อมกับลูกนะคะ เริ่มไปก่อนเลยค่ะ แล้วก็มาเรียนกับลูกด้วย นอกจากเรื่องของภาษาแล้ว อยากให้คุณพ่อคุณแม่ อัพเดท ความรู้รอบตัวเอาไว้เล่าและคุยกับเด็กๆ ด้วย ความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยนี้จะกระตุ้นให้เด็กเป็นคนสนใจใคร่รู้ ช่างพูดช่างเจรจา
เพราะต่อไปนี้เราจะเป็นครู ครูต้องมีความรู้ และ ทัศนะคติที่ดีและถูกต้อง ไม่ต้องคอยให้เก่งก่อนจึงจะสอนลูกได้นะ คะ เรียนไปพร้อมกันกับลูกเลยก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เริ่มพร้อมกับลูกนะคะ เริ่มไปก่อนเลยค่ะ แล้วก็มาเรียนกับลูกด้วย นอกจากเรื่องของภาษาแล้ว อยากให้คุณพ่อคุณแม่ อัพเดท ความรู้รอบตัวเอาไว้เล่าและคุยกับเด็กๆ ด้วย ความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยนี้จะกระตุ้นให้เด็กเป็นคนสนใจใคร่รู้ ช่างพูดช่างเจรจา
3 ห้ามปรี๊ดแตก
อันนี้สำคัญนะคะ จากประสบการณ์ตรงเลยค่ะ ถ้าเค้าทำไม่ได้อย่าไปโกรธไปว่าเขา หรือทำให้เขาน้อยเนื้อต่ำใจเด็ดขาด เพราะจะทำให้เขาเข็ดขยาดการพูดภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาที่สองที่คุณเลือก เนื่องจากสมองได้เอาความทรงจำสองเรื่องไปผูกเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ แบบเดียวกับที่เรานึกถึงเรื่องราวเก่าๆเวลาที่ได้ยินเพลงบางเพลง หรือนึกถึงคนบางคนเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมกลิ่นใดกลิ่นหนึ่ง กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่มาเริ่มเอาตอนลูกโตพูดได้แล้วยิ่งต้องใจเย็น ค่อยๆทำไปต้องสำเร็จแน่นอนค่ะขอให้มุ่งมั่นทำเพื่ออนาคตของลูกนะคะ
อันนี้สำคัญนะคะ จากประสบการณ์ตรงเลยค่ะ ถ้าเค้าทำไม่ได้อย่าไปโกรธไปว่าเขา หรือทำให้เขาน้อยเนื้อต่ำใจเด็ดขาด เพราะจะทำให้เขาเข็ดขยาดการพูดภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาที่สองที่คุณเลือก เนื่องจากสมองได้เอาความทรงจำสองเรื่องไปผูกเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ แบบเดียวกับที่เรานึกถึงเรื่องราวเก่าๆเวลาที่ได้ยินเพลงบางเพลง หรือนึกถึงคนบางคนเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมกลิ่นใดกลิ่นหนึ่ง กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่มาเริ่มเอาตอนลูกโตพูดได้แล้วยิ่งต้องใจเย็น ค่อยๆทำไปต้องสำเร็จแน่นอนค่ะขอให้มุ่งมั่นทำเพื่ออนาคตของลูกนะคะ
4 ทำบ่อยๆทำซ้ำๆ กระตุ้นการตอบสนอง
การทำซ้ำซากนี่ไม่ได้ทำให้เบื่อเสมอไปนะคะ ถ้าเราทำให้มันสนุก เด็กๆก็จะอยากทำอีกไม่แน่จะขอทำเองด้วยซ้ำไป แต่ขอให้เข้าใจนะคะว่าในบางกรณีสนุกเด็กกับสนุกผู้ใหญ่อาจต่างกัน อย่าเอาบรรทัดฐานของผู้ใหญ่มาวัดเด็กนะคะ เด็กอาจต้องการการท้าทายที่ต่ำกว่า ชอบแบบค่อยเป็นค่อยไป และข้อสำคัญ เด็กทุกคนบ้ายอ ต้องชมเข้าไว้ คุณพ่อคุณแม่ต้อง อัพเดท คำศัพท์ที่ใช้ในการชมไว้เยอะๆนะคะ ไม่ใช่อะไรๆก็ Good อย่างเดียว การได้ยินคำศัพท์ในบริบทของการชมเชย แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักคำคำนั้น แต่เขาจะค่อยๆเรียนรู้ไปเองว่าคำนี้เป็นคำชม และจะจำได้เองโดยไม่ต้องมานั่งท่อง
การทำซ้ำซากนี่ไม่ได้ทำให้เบื่อเสมอไปนะคะ ถ้าเราทำให้มันสนุก เด็กๆก็จะอยากทำอีกไม่แน่จะขอทำเองด้วยซ้ำไป แต่ขอให้เข้าใจนะคะว่าในบางกรณีสนุกเด็กกับสนุกผู้ใหญ่อาจต่างกัน อย่าเอาบรรทัดฐานของผู้ใหญ่มาวัดเด็กนะคะ เด็กอาจต้องการการท้าทายที่ต่ำกว่า ชอบแบบค่อยเป็นค่อยไป และข้อสำคัญ เด็กทุกคนบ้ายอ ต้องชมเข้าไว้ คุณพ่อคุณแม่ต้อง อัพเดท คำศัพท์ที่ใช้ในการชมไว้เยอะๆนะคะ ไม่ใช่อะไรๆก็ Good อย่างเดียว การได้ยินคำศัพท์ในบริบทของการชมเชย แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักคำคำนั้น แต่เขาจะค่อยๆเรียนรู้ไปเองว่าคำนี้เป็นคำชม และจะจำได้เองโดยไม่ต้องมานั่งท่อง
ถ้าคุณต้องการให้ลูกพูดได้คุณต้องคุยกับเขาบ่อยๆ
แม้ว่าคุณจะใช้สื่อการสอนไม่ว่าจะเป็นหนังสือ คลิปเสียง หรือคลิปวิดีโอ
การโต้ตอบจากคุณก็ยังสำคัญอยู่มากอย่างน้อยถามเขาสัก คำถามสองคำถามก็ยังดี
ในสมัยก่อนที่พบบ่อยๆคือครอบครัวจีนในเมืองไทย แม่พูดจีนด้วยลูกๆตอบเป็นภาษาไทยพอนานๆไปก็กลายเป็นฟังออกแต่พูดไม่ได้
เพราะไม่ได้ฝึกพูด อันนี้สำคัญนะคะ บางคนอาจจะว่ามันเป็นไปได้อย่างไร
ฟังออกก็ต้องพูดได้สิ
แต่จริงๆแล้วก็เปรียบได้กับการฟังดนตรีที่เราฟังได้ฟังบ่อยแต่เล่น
หรือร้องออกมาเป็นเพลงไม่ได้ ถ้าอยากได้ทักษะใดก็ต้องฝึกทักษะนั้นค่ะ
ฟังบ่อยๆช่วยการพูดก็จริงแต่ก็ต้องฝึกพูดด้วยจึงจะคล่อง ถูกต้องและสำเนียงดีนะคะ
5 ไม่ต้องแปลไทยแปลอังกฤษทุกคำทุกประโยค
เคยเจอคุณแม่ท่านหนึ่งอยากให้ลูกเป็นเด็กสองภาษาคุณแม่ก็เลยพูดภาษาไทยกับลูกแล้วก็ตามด้วยประโยคเดิมในภาษาอังกฤษ ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษนั้นย่อมต่างกัน ไม่ว่าวิธีคิด การออกเสียง ไวยากร การจัดเรียงลำดับคำ รวมถึงสำนวนต่างๆ ขอให้พึงตระหนักว่า หากจะพูดภาษาใดก็ตามให้ได้ดี ก็จะต้องคิดเป็นภาษานั้น อย่าคิดเป็นไทยแล้วแปลเป็นอังกฤษ เพราะจะได้ภาษาที่เปิ่นเป๋อ แบบที่ฝรั่งว่ามันไม่เมคเซนส์หนะค่ะ เช่น ภาษาไทยว่า นั่งดีๆซิคะลูก แล้วก็แปลพ่วงท้ายว่า You sit good good na. นี่ขอเลยนะคะ โดยเฉพาะคำว่า นะ นี่ไม่มีนะคะในภาษาอังกฤษ
เคยเจอคุณแม่ท่านหนึ่งอยากให้ลูกเป็นเด็กสองภาษาคุณแม่ก็เลยพูดภาษาไทยกับลูกแล้วก็ตามด้วยประโยคเดิมในภาษาอังกฤษ ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษนั้นย่อมต่างกัน ไม่ว่าวิธีคิด การออกเสียง ไวยากร การจัดเรียงลำดับคำ รวมถึงสำนวนต่างๆ ขอให้พึงตระหนักว่า หากจะพูดภาษาใดก็ตามให้ได้ดี ก็จะต้องคิดเป็นภาษานั้น อย่าคิดเป็นไทยแล้วแปลเป็นอังกฤษ เพราะจะได้ภาษาที่เปิ่นเป๋อ แบบที่ฝรั่งว่ามันไม่เมคเซนส์หนะค่ะ เช่น ภาษาไทยว่า นั่งดีๆซิคะลูก แล้วก็แปลพ่วงท้ายว่า You sit good good na. นี่ขอเลยนะคะ โดยเฉพาะคำว่า นะ นี่ไม่มีนะคะในภาษาอังกฤษ
6 ต้องหมั่นให้กำลังใจตัวเอง
ห้ามท้อ ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด เราต้องจินตนาการถึงวันที่ลูกเรา สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และได้ใช้ความสามรถนั้นเป็นบันไดก้าวไปสู่ความสำเร็จในขั้นต่อๆไป ท่องไว้ว่า เพื่ออนาคตของลูกเราต้องทำได้
เมื่อมาถึงจุดนี้ก็ได้เวลาเตรียมพร้อมร่างกายและจิตใจเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จกันนะคะ มีจุดหมายเป็นธงชัย สองดามองดาว ส่วนสองเท้าก็ก้าวเดินค่ะ และห้ามหยุดด้วย อย่าลืมกลับไปทำการบ้านเยอะๆนะคะ ขั้นต่อไปเราจะก้าวไปด้วยกันค่ะ บทต่อไป จะเป็นขั้นตอนการผลิตเด็กสองภาษาอย่างมีคุณภาพ อย่าลืมติดตามนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ห้ามท้อ ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด เราต้องจินตนาการถึงวันที่ลูกเรา สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และได้ใช้ความสามรถนั้นเป็นบันไดก้าวไปสู่ความสำเร็จในขั้นต่อๆไป ท่องไว้ว่า เพื่ออนาคตของลูกเราต้องทำได้
เมื่อมาถึงจุดนี้ก็ได้เวลาเตรียมพร้อมร่างกายและจิตใจเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จกันนะคะ มีจุดหมายเป็นธงชัย สองดามองดาว ส่วนสองเท้าก็ก้าวเดินค่ะ และห้ามหยุดด้วย อย่าลืมกลับไปทำการบ้านเยอะๆนะคะ ขั้นต่อไปเราจะก้าวไปด้วยกันค่ะ บทต่อไป จะเป็นขั้นตอนการผลิตเด็กสองภาษาอย่างมีคุณภาพ อย่าลืมติดตามนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น